การลงรายการเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์
Thai Digital Collection (TDC)

1. TITLE   ชื่อของทรัพยากรสารนิเทศที่ผู้แต่งหรือสํานักพิมพ์กำหนด
 Alternative title ชื่อเรื่องรอง ชื่อเรื่องอื่น ๆ รวมชื่อในภาษาอื่น ชื่อย่อชื่อเต็ม ชื่อชุด
Running Title (ชื่อที่อยูในแต่ละหน้า อาจอยูส่่วนบนหรือล่าง เช่น ในเอกสารกรณีที่เอกสารเป็นบทความ)
ข้อตกลงการลงรายการ
1.1 ให้ลง Alternative title สําหรับชื่อในภาษาอื่น
1.2 ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษควรเป็นอักษรพิมพ์ใหญ่ สําหรับอักษรตัวแรกและชื่อเฉพาะนอกนั้นใช้อักษรพิมพ์เล็ก
1.3 กรณีที่เป็นงานวิจัย ที่ขึ้นต้นด้วย “รายงานการวิจัยเรื่อง” ให้ใช้ชื่อตามที่ปรากฏใน
ต้นฉบับ และไม่ต้องลงรายการใน Alternative title เพราะโปรแกรมสามารถค้นได้
  2. CREATOR ผู้รับผิดชอบหลักในส่วนของเนื้อหา ซึ่งหมายรวมถึง บุคคล (ผู้แต่งผู้ถ่ายภาพ ศิลปิน หรือผู้วาดภาพประกอบ) หน่วยงาน โดยให้ลงรายการของชื่อบุคคลที่เป็นผู้แต่งชื่อ-สกุล วลีซึ่งเป็นชื่อต้นหรือชื่อสกุลที่เป็นสิ่งเดียวซึ่งแสดงให้ทราบว่าเป็นผู้แต่ง
ข้อตกลงการลงรายการ
 2.1 Creator ให้ลงชื่อภาษาไทย ถ้าเนื้อหาเป็นภาษาไทย และลงชื่อเป็นภาษาอังกฤษถ้า
เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ
2.2 งานวิจัยที่มีผู้วิจัยหลายคน ให้ลงชื่อผู้วิจัยทุกคน
2.3 ไม่ต้องลงคํานําหน้านาม เช่น นางสาว นาง ดร. พ.ต.อ. เพราะจะทําให้ไม่สามารถ
สืบค้นชื่อได้
 2.4 Org.name ให้ใช้ชื่อ มหาวิทยาลัย. คณะ. ภาควิชา (เหตุที่ให้ลงชื่อคณะด้วย เพราะบาง
สถาบันมีชื่อภาควิชาซํ้ากันในบางคณะ กรณีที่บางสถาบันไม่มีคณะ มีแต่สาขาให้ลงสาขา)
 2.5 Org.name กรณีที่มีผู้สร้างสรรค์งานหลายคน ให้ลงรายการแยกหน่วยงานของผู้
สร้างสรรค์งานแต่ละคน ไว้คนละ element ไม่รวมไว้ใน element เดียวกน แม้ว ั าผู้สร้างสรรค์งานจะ ่
อยู่หน่วยงานเดียวกัน
2.6 E-mail ให้ใส่ อีเมล์ของผู้สร้างสรรค์งาน หากไม่ทราบไม่ต้องลงรายการ กรณีที่เป็นงานวิจัยควรมีข้อมูลเกี่ยวกบอีเมล์ของนักวิจัย เพื่อผู้ใช้จะได้สามารถติดต่อได้
2.7 Address ให้เป็นทางเลือกของแต่ละแห่งวาจะลงหรือไม่
  3. SUBJECT: Keywords คําสําคัญ (Keyword)
 SUBJECT: Controlled vocabulary หัวเรื่องควบคุม
 SUBJECT: Classification แผนการจัดหมวดหมู่
 ข้อตกลงการลงรายการ
3.1 Subject: Classification ให้ลงรายการเฉพาะหมวดหมู่
 ไม่ต้องลงเลขผู้แต่ง
3.2 Subject.ThaSH ให้ลงรายการหัวเรื่องสําหรับทรัพยากรสารสนเทศภาษาไทย โดยใช้
หนังสือหัวเรื่องของคณะทํางานกลุ่มวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา
ส่วนหัวเรื่องภาษาไทยที่ใช้ตามหัวเรื่องของหน่วยงานอื่นๆ ให้ลงรายการใน Subject.Others
3.3 ถ้าหากมีหลายหัวเรื่อง ไม่วาจะเป็นหัวเรื่องประเภทเดียวกันหรือไม่่ก็ตาม ให้ลง 1 หัว
เรื่อง ต่อ 1 Element ไม่ใช่ลงรายการต่อกนโดยใช้เครื่องหมาย  ; คันระหว่างหัวเรื่อง
  4.  DESCRIPTION ข้อความที่ให้รายละเอียดของเนื้อหา รวมทั้งบทคัดยอในกรณีที่เป็น
ประเภทเอกสาร หรือข้อความบรรยายเนื้อหากรณีที่เป็นโสตทัศนวัสดุ ตลอดจน URL (Uniform
Resources Locator) ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ระบุเนื้อหาของทรัพยากร
ข้อตกลงการลงรายการ
4.1 Description Abstract ไม่ควรเอาหมายเหตุวิทยานิพนธ์ (502 Dissertation) มาไว้ใน
element นี้ เพราะผิดความหมาย ควรเอาข้อมูลเกี่ยวกบวิทยานิพนธ์ไว้ใน element ที่ เป็น Thesis
4.2 Description Abstract การลงรายการใน element นี้ เปิดเป็นทางเลือกวาจะลงรายการ
หรือไม่ก็ได้ แล้วแต่นโยบายของห้องสมุด
   
5. PUBLISHER ชื่อของหน่วยงานที่จัดทําทรัพยากรสารนิเทศนั้นๆ ให้อยู่ในรูปของดิจิทัล
โดยให้ลงรายการโดยตรง หรือหน่วยงานที่ลงรายการภายใต้ชื่อของหน่วยงานต้นสังกดหรือชื่อ
หน่วยงานที่ใช้ชื่อโดยเอกเทศ
ข้อตกลงการลงรายการ
5.1 ลงชื่อหน่วยงานที่จัดทําให้เป็นดิจิทัล ไม่ใช่หน่วยงานที่ปรากฏในเอกสาร
5.2 การลงชื่อ Publisher ให้ลงรายการภายใต้ชื่อหน่วยงานใหญ่
 ตามด้วยชื่อหน่วยงานย่อย และต้องใส่เครื่องหมาย . (จุด) คันกลางระหว่างหน่่วยงานใหญ่กับหน่วยงานย่อย
5.3 Publisher ของเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ใส่ Publisher เป็นภาษาอังกฤษ หาก
เนื้อหาเป็นภาษาไทย ก็ต้องใส่เป็นภาษาไทย
5.4 Publisher’s Place ให้ลงรายการเฉพาะชื่อเมืองหรือจังหวัดตามภาษาของเนื้อหา ไม่ต้อง
มีชื่อเมืองหรืจังหวัดในภาษาอื่นในวงเล็บ และไม่ต้องลงที่อยูเต็ม
5.5Publisher’s Email ให้ลงรายการโดยลงอีเมล์ของหน่วยงานที่จัดทําทรัพยากร
สารสนเทศให้เป็นดิจิทัล
   
6. CONTRIBUTOR บุคคลหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผู้รับผิดชอบเนื้อหา เช่น อาจารย์ที่
ปรึกษา ผู้แปล ผู้วาดภาพประกอบ ผู้ถ่ายภาพ ผู้ให้ทุนวิจัย เป็นต้น
ข้อตกลงการลงรายการ
6.1 เมื่อลงรายการของผู้ร่วมสร้างสรรค์งานใน Contributorแล้วต้องใส่บทบาทด้วย การใส่
บทบาท ให้ลงรายการไว้ใน Contributor.Role เพื่อให้ทราบวาชื่อผู้ร่วมสร้างงานนั้นมีบทบาทอะไร
6.2 ผู้ร่วมสร้างสรรค์งาน กรณีที่เป็ นวิทยานิพนธ์ ถ้ามีอาจารย์ที่ปรึกษาให้ใส่ชื่ออาจารย์ที่
ปรึกษา และใส่คํา “อาจารย์ที่ปรึกษา” ใน Contributor.Role ถ้าไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษามีแต่
คณะกรรมการให้ใส่ชื่อประธานคณะกรรมการ และใส่บทบาทตามที่ปรากฏในเอกสาร เช่น
ประธานกรรมการ
6.3 กรณีที่มีข้อมูลเกี่ยวกบผู้ให้ทุน ที่นอกเหนือจากชื่อผู้ให้ทุน เช่น ปีที่ให้ทุน ให้ลงรายการชื่อผู้ให้ทุนไว้ใน Contributorและใส่บทบาทไว้ใน Contributor. Role ส่วนข้อมูลอื่นๆให้ใส่เป็ นหมายเหตุไว้ใน Description.Note
6.4 ถ้าเป็นงานวิจัยภาษาอังกฤษ คํา “ผู้ให้ทุน” ให้ใช้ “funding agency” ใน Contributor  Role 7. DATE ปี-เดือน-วัน ที่ผลิตหรือสร้างทรัพยากรสารสนเทศซึ่งปรากฏอยูในรูปเอกสาร ่
ต้นฉบับใช้ตามมาตรฐาน ISO 8601 YYYY-MM-DD-ข้อตกลงการลงรายการ
7.1 Date.Create กรณีที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปี ที่ผลิต ให้ใส่ เลขศูนย์ 4 ตัว เช่น 0000 เพื่อให้
ผู้ใช้ทราบวาไม่่มีข้อมูล และถ้าไม่แน่ใจให้ใส่เครื่องหมาย ? ไว้หลังปี เช่น 2549?
7.2 Date.Create ของงานวิจัย วิทยานิพนธ์ ให้ลงเฉพาะปี พิมพ์ ไม่ต้องลง วัน เดือน
7.3 Date.Issued ไม่ต้องลงรายการ ระบบใส่ข้อมูลให้อัตโนมัติ
7.4 Date.Modified ไม่ต้องลงรายการ ระบบใส่ข้อมูลให้อัตโนมัติ
  8. TYPE บรรยายถึงประเภทของเนื้อหาทรัพยากรสารสนเทศโดยรายชื่อประเภทของ
ทรัพยากรสารสนเทศใช้ตามหลักของ DCMIคณะทํางานได้กาหนดประเภทของทรัพยากรสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ของโครงการคือ วิทยานิพนธ์/Thesis
งานวิจัย/Research report
หนังสือหายาก/Rare Book
รูปภาพ/Image
บทความ/Article
เอกสารจดหมายเหตุ/Archive  
9. FORMAT อธิบายรูปแบบการนําเสนอข้อมูลหรือลักษณะรูปร่างของทรัพยากร
สารสนเทศที่นําลงในฐานข้อมูลที่อยูในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรฐาน IMT
ข้อตกลงการลงรายการ
9.1 Format ให้ลงเป็น application/pdf เท่านั้น  
10. IDENTIFIER ข้อความหรือตัวเลขที่ใช้ในการระบุชี้เฉพาะทรัพยากรอาจเป็ นตัวชี้
เฉพาะของ ทรัพยากรในเครือข่าย
ข้อตกลงการลงรายการ
10.1 Identifier.ISBN ไม่ต้องมีเครื่องหมาย ( - ) คันที่เลข  ISBN แต่ISSN ต้องมีเครื่องหมาย
( - ) คันที่เลข  ISSN ถ้าไม่ปรากฏในตัวเล่ม ไม่ต้องลงรายการ
10.2 Identifier.ISSN ไม่ต้องใส่ในรายการบทความเพราะไม่ใช่ระเบียนของวารสาร
10.3 Identifier.Bibliography Citation ใช้ลงรายการบทความวารสารในส่วนที่เป็นข้อมูล
ของชื่อวารสาร ปี ที่ ฉบับที่ เดือน ปี หน้า ตามมาตรฐานการลงรายการบทความ และไม่ต้องลง
รายการใน Source  
11. SOURCE ต้นฉบับ หรือแหล่งที่มาของสารสนเทศ หรือต้นแหล่งของทรัพยากรที่กำลังลงรายการ
ข้อตกลงการลงรายการ
11.1 Source.Call no ถ้าต้องการให้ค้นต้นฉบับพิมพ์ได้ ให้ลงรายการเลขเรียกหนังสือของตัวเล่ม หน่วยงานใดที่ไม่
เก็บต้นฉบับเมื่อจัดทําเป็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ไม่ต้องลงรายการเลขเรียกหนังสือ
11.2 Source ของรายการบทความไม่ต้องลงรายการ เพราะมีอยู่ที่ Identif  ier.Bibliography Citation
  12. LANGUAGE ภาษาของเนื้อหา ใช้ตาม RFC 3066 หรือ ISO 639-2 กำหนดเป็น  tag ที่ มีตัวอักษร 13. Thesis  วิทยานิพนธ์ Thesis. Degree name คือ ชื่อปริญญา (ให้ใช้ชื่อเต็มของปริญญา ตามภาษาของ
วิทยานิพนธ์นั้นๆ)
 Thesis. Degree level คือ ระดับปริญญา
 Thesis. Degree discipline คือ สาขาวิชา
 Thesis. Degree grantor คือ มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญา ลงชื่อสถาบันตามที่ปรากฏในตัวเล่มแม้วาในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อไปแล้ว
ข้อตกลงการลงรายการ
13.1 Thesis. Degree level ระดับปริญญาโท ให้ใช้ Master’s Degree ระดับปริญญาเอก ให้ใช้ Doctoral Degree
13.2 Thesis. Degree grantor ให้ลงชื่อสถาบันตามที่ปรากฏในตัวเล่ม แม้วาชื่อสถาบันใน ปัจจุบันจะเปลี่ยนชื่อไปแล้วก็ตาม
13.3 สาขาวิชากบชื่อปริญญา ต้องแยกบันทึกในแต่ ละ element ไม่ลงรายการไว้ใน element
เดียวกัน ให้ลงรายการโดย  - ชื่อปริญญา ต้องลงรายการใน Thesis.Degree nameโดยลงรายการเป็น
ชื่อเต็มของปริญญา ไม่ใช่ชื่อยอของปริญญา - สาขาวิชาของปริญญา ต้องลงรายการใน Thesis.Degree discipline
  14. COVERAGE ขอบเขตของเนื้อหาตามภูมิศาสตร์ (Spatial) และเวลา (Temporal)
ข้อตกลงการลงรายการ
14.1 Coverage. Spatial ใช้สําหรับทรัพยากรที่มีขอบเขตของเนื้อหาเกี่ยวข้องกับชื่อทาง ภูมิศาสตร์ เช่น จังหวัด ให้ลงรายการทั้งไทยและจังหวัด แต่แยกบันทึกในแต่ละ Element ถ้ามีภูมิภาคด้วย ให้ลงรายการของภูมิภาคไว้ในวงเล็บต่อท้ายคําวา "ไทย" ถ้ามีเนื้อหาถึงระดับตําบลหมู่บ้าน ให้ลงตําบล หมู่บ้าน โดยแยกบันทึกในแต่ละ Element ทั้งนี้ให้ขึ้นอยูกับนโยบายของสถาบัน
14.2 Coverageถ้าเนื้อหาไม่ระบุเจาะจงถึงขอบเขตของเนื้อหาทางภูมิศาสตร์ ไม่ต้องลงรายการ
15. RIGHTS  ข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ ของทรัพยากร
บันทึกข้อมูล
Meta name กำหนดค่าสําหรับ metaname และกลุ่มข้อมูล
บันทึก Meta name จาก ชื่อเรื่อง และเลือกกลุ่ม TDC และ กด Save
  หมายเหตุ: ข้อตกลงอื่นๆ
 1. การลงรายการภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ให้ดูเนื้อหาเป็นหลัก ถ้าเขียนเป็นภาษาไทย ให้ลงรายการในทุก element เป็นภาษาไทย ถ้าเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ ให้ลงรายการในทุก element เป็นภาษาอังกฤษ
2. งานวิจัย บทความ หนังสือหายาก ไม่ต้องใส่  element Thesis
 3. Object ถ้าเป็นการสแกนทั้งเล่มควรแยกไฟล์ เพื่อประสิทธิภาพการดาวน์โหลดและต้อง add Object ให้ครบถ้วนทุกระเบียน ส่วนการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล ให้ตั้งเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก
4. กรณีที่หน้าหายไป ถ้าหน้าเดียวให้ใช้ “ต้นฉบับไม่มีหน้านี้” หรือ “NO THIS PAGE INORIGINAL”
 ถ้าหายต่อเนื่องหลายหน้า เช่น หน้า 5-10 ให้ใช้ “ต้นฉบับไม่มีหน้า 5-10” หรือ“NO PAGE 5-10 IN ORIGINAL”
5. บทความวารสารที่ไม่ใช่วารสารของมหาวิทยาลัย ก่อนลงรายการควรตรวจสอบเรื่องลิขสิทธิ์เสียก่อนเพราะโดยมากบทความวารสารเป็นลิขสิทธิ์ของสํานักพิมพ์หรือหน่วยงานที่จัดทํา