ยุคดิจิทัลสามารถเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลก ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Line หรือ YouTube โดยเชื่อมโยงข้อมูลส่วนตัว ประสบการณ์และข้อมูลต่างๆ ของเราไปยังเพื่อน ครอบครัว หรือบุคลอื่นๆ ได้สะดวกและรวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตามเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอเมื่อมีด้านดี ก็ย่อมมีด้านร้าย ที่แฝงไปด้วยภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนตัวที่เรามี และได้แชร์ออกไปไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วีดีโอ รวมถึงความรู้สึกต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบ แล้วเราจะมีแนวทางการรับมือต่อภัยคุกคามเหล่านี้อย่างไร ลองมาติดตามตามกันค่ะ
เล่ห์กลลวงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค
1. เพราะศรัทธาและสงสาร
จะเห็นได้ว่าโลก Social มักจะอาศัยความสงสาร หรือใช้ความมีชื่อเสียงของนักร้อง นักแสดง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม แล้วนำมาแต่งเรื่องหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ
กลุ่มมิจฉาชีพจะปลอมบัญชีผู้ใช้ Facebook ของดาราเป้าหมายและเพื่อนดาราขึ้นมา พร้อม copy ข้อความต่างๆ ของที่ดาราได้แชร์ไว้ใน Instagram มาใส่ในบัญชีผู้ใช้ปลอมของดารา ให้เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวเพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็น Instagram ของดาราเป้าหมายจริงๆ และชักชวนกันร่วมทำบุญ โดยโอนเงินมายังเลขที่บัญชีธนาคารของมิจฉาชีพ
2. ความรักเป็นเหตุ
ขบวนการแก๊งหาคู่ต่างชาติ ที่มักจะใช้ภาพที่มีหน้าตาสวย หล่อ เพื่อต้มตุ๋นที่หวังว่าจะเปลี่ยนชีวิตได้แฟนเศรษฐี มีชีวิตหรูหราในต่างประเทศ แต่มักจะถูกหลอกให้เสียใจ เสียเงินหรือเสียตัวในที่สุด โดยเทคนิคที่มิจฉาชีพจะจีบสาวผ่าน Facebook หรือโปรแกรมหาเพื่อน หากแชทผ่านวีดีโอคอลก็จะทำแบบแว้บๆ เพื่อไม่ให้เห็นหน้าจริงแล้วบอกว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยดีจึงโพสต์วีดีโอที่แอบตัดต่อไว้แล้วแทน พร้อมสร้างนิยายให้ดูน่าสงสาร อกหักจากคู่รักทิ้งไป เลยอยากหาคู่แท้ที่รักจริงเมื่อถึงระยะเวลาที่เหยื่อหลงเชื่อก็จะส่งของมีค่าต่างๆ เช่น โทรศัพท์ สร้อยเพชร มาให้แต่ว่าของขวัญที่จะส่งมาให้ต้องจ่ายภาษีหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ และหลอกให้เหยื่อโอนเงินดังกล่าวไปให้เพื่อจะได้รับของขวัญก้อนโต บางรายมีเดินทางมาหาพร้อมหลอกมีเซ็กส์และบินกลับไป แล้วไม่ติดต่อกลับมาอีกด้วยเหตุผลที่สร้างขึ้นมาร้อยแปด
3. ลงทุนน้อยกำไรงาม
ธุรกิจขายฝันลงทุนน้อยกำไรงามในระยะเวลาอันสั้น ที่ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เมื่อครบวันก็จะคืนเงินทุนพร้อมดอกเบี้ย ทำจนเหยื่อหลงเชื่อแล้วก็หายตัวไปพร้อมเงินมหาศาล ที่มีหลากหลายรูปแบบเช่น
- แชร์ลูกโซ่แอบขายตรงของ UFUN ที่เกิดความเสียหายหลายพันล้าน ที่มีการจดทะเบียนกับ สคบ. อย่างถูกต้องแต่กลับไม่ได้ทำธุรกิจตามที่แจ้งไว้ รวมทั้งยังมีการ การลงทุน UFUN ที่ใช้เงินสกุล USD และใช้ U Token Cash แทนสกุลเงินปกติ เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและเงินตราบนโลกออนไลน์
- นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเปิดเฟสบุคชื่อว่า “กลุ่มรับทรัพย์” แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น “บ้านเลขที่ 5” เชิญชวนสมาชิกร่วมลงทุนหุ้นละ 100 บาท ลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 3 ต่อสัปดาห์ เมื่อครบวันก็จะคืนเงินทุนพร้อมดอกเบี้ย เหยื่อลงทุนเมื่อเห็นผลกำไรและได้เงินคืนจริงๆ ก็จะลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็หายตัวไปพร้อมกับเงินของผู้เสียหายมหาศาล
- กองทุนสวัสดิการเพื่อชีวิตสมาชิก 888 ที่ชักชวนชาวบ้านสมัครเป็นสมาชิก ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์รายเดือนโดยมีค่าสมัครครั้งแรก 1,100 บาท จากนั้นจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 100 บาท เมื่อครบ 180 วัน จะได้เงินค่าฌาปนกิจศพ 100,000 บาทหากครบ 2-5 ปีจะได้บวกเพิ่มปีละ 100,000 – 500,000 บาท หากสมทบเงินครบ 6 ปีขึ้นไปจะได้รับเงิน 1,000,000 บาท
หลายคนอาจจะสงสัยทำไมถึงได้โดนหลอกทั้งๆ ที่มีข่าวสารแจ้งให้รู้เกี่ยวกับภัยเหล่านี้มากมาย นั้นก็เพราะการหลอกลวงแบบนี้เป็นการใช้ความโลภที่เป็นเหมือนกิเลสพื้นฐาน และยังมีรูปแบบหลากหลายมาก ทั้งแชร์ลูกโซ่ ลงทุนหุ้น กองทุน ขายรถ ขายสินค้าคอร์สสัมมนา ไปจนกระทั่งฌาปณกิจสงเคราะห์ โดยสามารถลงทุนในจำนวนเงินหลักร้อยแต่ได้หลักพัน-หมื่นในเวลาอันสั้น ด้วยกลยุทธ “ขายไม่เป็นไม่เป็นไร เดี๋ยวมีคนช่วยขายและหาลูกค้าให้”, “ไม่มีความรู้ไม่เป็นไรเดี๋ยวมีคนช่วยดำเนินการให้”, “ไม่มีเงินไม่เป็นไร มีญาติพอหยิบยืมก่อนไหม” หรือมีทรัพย์สินเช่นรถ ทองสามารถจำนำมาลงทุนก่อนได้ แถมยังใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงแต่ละอาชีพเป็นการยืนยันความน่าเชื่อถือในการลงทุน พร้อมด้วยภาพยืนยันผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ไปเที่ยวทริปหรู มีรถ Super Car ขับ
4. นักท่องเที่ยวระวังโดนเท
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นาน เทศกาลซากุระบานโอซากาที่ญี่ปุ่นบริษัท WealthEver ที่บินตรงจากกรุงเทพ-โอซากา แบบเช่าเหมาลำ ลอยแพนักท่องเที่ยวที่หลงเชื่อกว่า 2,000 คนที่สนามบินสุวรรณภูมิ คงเป็นข่าวใหญ่ที่หลายคนเคยได้ยิน เป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่ท่องเที่ยว ที่ชักชวนให้เป็นสมาชิกและซื้อสินค้าในราคาเพียง 8,000 บาท จะได้ตั๋วเครื่องบินเที่ยวโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลลวงใช้เงินจำนวนน้อยหลอกล่อให้เหยื่อหลงเชื่อ
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบกลโกงการท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น บริษัทขายตั๋วเครื่องบินปลอมในราคาถูกที่จ่ายเงินจริงแต่ไม่ได้บินที่พร้อมหลอกทั้งนักท่องเที่ยว หรือทัวร์ปลอมกรณีหมอตุ๋นหมอ หลอกให้มาลงหุ้นลงทุนบริษัททัวร์กว่า 64 ล้านบาทพร้อมอ้างกลยุทธที่ได้รับผลตอบแทนสูง ทำให้ผู้คนจากหลากหลายอาชีพที่มีหน้ามีชื่อเสียงในสังคม ตกเป็นเหยื่อของการหลอกให้ร่วมลงทุน
ทริคเล็กๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในโลก Social
เกร็ดความรู้ที่จะช่วยให้เราท่องโลกโซเชียลให้ปลอดภัย ที่เราทุกคนสามารถทำได้
- คิดให้รอบคอบ อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ
- “คิดก่อนคลิก” ที่จะดาวน์โหลดโปรแกรม หรือ เอกสารใดๆ
- อย่าบอกหรือระบายทุกอย่างใน Social เช่น สัปดาห์นี้ไปเที่ยวเชียงใหม่ มิฉาชีพอาจย่องมาบ้านอย่างสบายใจ
- อย่าแชร์ข้อมูลสุ่มเสี่ยงความเป็นส่วนตัวให้ใครรู้ อย่าง บัตรประชาชน พาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาส ถ้าต้องแชร์จริงๆ ก็แชร์เฉพาะกลุ่ม
- คัดกรองกลุ่มเพื่อนในโลก Social
- เปิดใช้งาน Share Location เท่าที่จำเป็น
- ระวังการใช้ Wifi Free ในที่ต่างๆ กลุ่มแฮกเกอร์อาจใช้เครื่องมือล้วงข้อมูลที่สำคัญเราไปได้
- ตั้งค่าความปลอดภัยไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่โทรศัพท์ที่มั่นคอย update หรือใน Facebook ควรตั้งค่าความปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/help/379220725465972)
- ควรเปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัย อย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน
ทั้งนี้หากไม่แน่ใจสามารถสอบถามหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายด่วน 1212 ที่รับแจ้งเบาะแสเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นต้น เพียงเท่านี้เราก็สามารถอยู่อย่างปลอดภัยในโลกโซเชียล
เขียนโดย : อุมารัตน์ โพธิ์ชัย
ที่มา :: https://www.catcyfence.com/it-security/article/social-network-awareness/