![ภานุวัฒน์ หนูนคง's picture ภานุวัฒน์ หนูนคง's picture](https://arit.rmutsv.ac.th/sites/default/files/styles/thumbnail/public/pictures/picture-82-1542603360.jpg?itok=23bLumV3)
ทำอย่างไร ถ้า เว็บติดมัลแวร์ เว็บติดไวรัส iframe
Google ประกาศเตือนเว็บคุณ
"ไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ"
เว็บติดไวรัส iframe - เว็บติดมัลแวร์
Google ต้องการให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยเมื่อค้นหาเว็บ จึงทำการตรวจสอบ ไวรัส iframe และ ระบุ ไซต์นี้เป็นอันตรายโดยเพิ่มข้อความเตือน ไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ พร้อมกับผลการค้นหา
![คำเตือนเกี่ยวกับ iframe virus - ไวรัส iframe](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/search_45449a_en.gif)
เว็บถูกบล๊อค หาก virus iframe โจมตี
เมื่อคลิ๊กเว็บไซต์ที่มีข้อความเตือน virus iframe คุณจะพบคำเตือนต่อไปนี้แทนที่จะถูกนำไปยังหน้าเว็บที่ต้องการโดยทันที:
![ไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/search_45449b_en.gif)
เว็บติดไวรัส iframe สามารถคลิ๊กได้ไหม
คุณสามารถเลือกที่จะดำเนินการต่อไปยังเว็บไซต์นั้นภายใต้ความเสี่ยงของคุณเอง อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าซอฟต์แวร์ หรือ สคริปที่เป็นอันตรายได้ถูกติดตั้งในเว็บคุณโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นที่เรียบร้อย เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์เหล่านี้ มีความเป็นไปได้ว่าคุณกำลังถูกขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่านและหมายเลขบัตรเครดิต หรือ เปลี่ยนแปลงผลการค้นหาของคุณ
คำเตือน "ไซต์นี้เป็นอันตราย" หากคุณเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์คุณจะทำอย่างไร
การแก้เว็บไซต์ติดไวรัส iframe : คุณสามารถตรวจสอบและระบุหน้าเว็บที่กำลัง ติดมัลแวร์ หรือ ไวรัส Iframe ได้จาก Free PHPAntivirus หรือ StopBadware.org (ภาษาอังกฤษ)
![ตรวจสอบและระบุเวปที่ติด ไวรัส iframe](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/virus3.jpg)
- ให้สังเกตตรง ปุ่ม สี (Status) ถ้าเป็นสีแดงแสดงว่ามี ไวรัส iframe อยู่ ถ้าเป็นสีเหลืองแสดงว่าไม่มี ไวรัส iframe แล้ว
วิธีแ้ก้ปัญหาเว็บไซต์ติดไวรัส และ วิธีกำจัดไวรัส iframe
1. หากไม่ได้เป็นสมาชิก google สมัครสมาชิกใหม่ได้ที่ https://www.google.co.th/accounts/NewAccount
2. ทำการ login เข้าสู่ระบบ และเรียก เข้า https://www.google.com/webmasters/tools/
![login เื่พื่อหา iframe virus - ไวรัส iframe](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/1.jpg)
3. คลิ๊กที่ลิงค์ เครื่องมือสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ จาำกนั้นเพิ่มเว็บที่ติด ไวรัส iframe เข้าไปในลิสต์
![add เว็บที่ติด iframe virus - ไวรัส iframe](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/2.jpg)
4. ทำการยืนยันว่าเป็นเจ้าของเว็บไซต์ซึ่ง ติดไวรัส iframe ในที่นี้เลือก Verification method แบบ html file โดยตั้งชื่อตามที่ google กำหนด แล้วอัพขึ้นโฮส หลังจากนั้นกด verify เพื่อยืนยัน
![verify เว็บที่ติด iframe virus - ไวรัส iframe](http://www.kaamania.com/virusiframe/images/3.jpg)
5. Google จะแจ้งรายละเอียดว่า เว็บติดไวรัส iframe ของเรามีปัญหาอะไรอยู่บ้าง ให้นำข้อมูลที่ google แจ้งนั้น มาทำการตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไข หรือก๊อปปี้ไฟล์ต้นฉบับที่ไม่ติด ไวรัส iframe ไปทับไฟล์เดิมใน server
6. เมื่อทำการแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้คลิกที่ Request a review เพื่อให้ Google ตรวจสอบ เว็บติดไวรัส iframe อีกครั้ง
ถ้าไม่มีปัญหาอะไร Google จบปลดคำเตือน ไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ ออกจากเวป ภายในหนึ่งอาทิตย์โดยประมาณ
- แก้เว็บติดไวรัส iframe gumblar.cn หรือ Martuz.cn คลิ๊กที่ลิงค์เพื่อดูวิธีกำจัดไวรัส iframe
- แก้เว็บติดไวรัส javascript km0ae9gr6m หรือ eval(function(p,a,c,k,e,r) คลิ๊กที่ลิงค์เพื่อดูวิธีกำจัดไวรัส
- เราไม่แนะนำให้นำ script โหลดเข้าโฮสของคุณเพื่อสแกนกำจัดไวรัส iframe เพราะถ้าแหล่งที่มาของ script นั้นไม่ชัดเจน มันเป็นเหมือนการเปิดช่องให้กับผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาแฮ๊คข้อมูลคุณ และ อาจจะปล่อย ไวรัส iframeที่ร้ายแรงกว่าลงในเว็บ(เพราะโครงสร้างทั้งหมดของเว็บได้ถูกบันทึกลงใน cookies ทำให้ง่ายแก่การโจมตีโดย ไวรัส iframe ชนิดใหม่ๆ)
ไวรัสและการโจมตีจากแฮกเกอร์เป็นปัญหาใหญ่ของผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ท่านจำเป็นต้องรู้วิธีปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลส่วนตัวของท่านจากการผู้บุกรุก
มัลแวร์คืออะไร
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมที่สามารถเพิ่มจำนวนได้เอง และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหา ไวรัสสามารถแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เมื่อผู้ใช้ส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ต หรือไปกับซีดี ดีวีดี หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ USB
หนอนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมอันตรายที่แตกต่างจากไวรัสอื่นๆ เพราะมันสามารถแพร่กระจายได้โดยอัตโนมัติผ่านระบบเครือข่ายโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว หนอนคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาให้เพิ่มจำนวนและแพร่กระจายได้เอง จึงทำให้โปรแกรมประเภทนี้ลุกลามได้อย่างรวดเร็ว หนอนคอมพิวเตอร์หลายชนิดอาจทำให้การ
ดาวน์โหลดและการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ช้ามาก เพราะโปรแกรมพวกนี้มักแทรกตัวเข้ามาพร้อมกันในปริมาณมากและส่งผลให้ระบบเครือข่ายถูกปิดกั้น
โทรจัน เป็นมัลแวร์รูปแบบหนึ่งที่สามารถติดตั้งตัวเองได้อัตโนมัติในเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้น แฮกเกอร์จะใช้โปรแกรมดังกล่าวเพื่อเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น
โทรจันมักซ่อนมาพร้อมกับซอฟท์แวร์หรือไฟล์ที่ผู้ใช้ตั้งใจดาวน์โหลดหรือติดตั้ง โทรจันมักแฝงมาพร้อมกับ
- การดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือซอฟท์แวอร์แบบเพื่อนถึงเพื่อน (Peer-to-Peer) ทางอินเทอร์เน็ต
- ซอฟท์แวร์ผิดกฎหมาย
- ไฟล์ที่มากับอีเมล
- ไฟล์ที่ส่งผ่านบริการข้อความออนไลน์หรือบริการพูดคุยผ่านอินเทอร์เน็ต
โทรจันช่วยให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นผ่านระบบทางไกลและ
- ขโมยข้อมูลจากไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต)
- ดาวน์โหลดหรืออัพโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายอื่นๆ สู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น
- แก้ไขและลบไฟล์
- บันทึกการใช้งานคีย์บอร์ด (เช่น บันทึกการกดปุ่มบนคีย์บอร์ดทั้งหมด จากนั้นจึงค้นหาข้อมูลประเภท
พาสเวิร์ดของบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต) - ช่วยให้แฮกเกอร์มองเห็นหน้าจอของบุคคลอื่น ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสผ่านและชื่อผู้ใช้งาน ผ่านทางการใส่รหัสผ่านแบบคลิก
- ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้
- ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งในการส่งข้อมูลโฆษณาอัตโนมัติ (Automated Spamming Campaign) หรือลงทะเบียนที่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย (จึงไม่สามารถแกะรอยแฮกเกอร์ได้)
สปายแวร์ คือ ซอฟท์แวร์ที่แสดงโฆษณาหรือข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับ โดยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เมื่อติดตั้งโปรแกรมใหม่ (ส่วนมากจะดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต) สปายแวร์จะแอบขโมยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงหรือมีปัญหาจนใช้งานไม่ได้ โปรแกรมเหล่านี้มักเปลี่ยนหน้าโฮมเพจหรือหน้าค้นหาข้อมูลของเว็บบราวเซอร์ด้วย
จะทราบได้อย่างไรว่ามีมัลแวร์ทำงานอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของท่านหรือไม่
- เมื่อท่านอัพเดทซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัส ระบบจะเตือนว่าตรวจพบมัลแวร์
- มีธุรกรรมแปลกปลอมเกิดขึ้นในบัญชีธนาคารของท่าน
- มีการส่งสแปมเมล (Spam Email) ไปยังคนรู้จักที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดรายชื่อ โดยเจ้าของบัญชีไม่ทราบเรื่อง
- โปรแกรมและระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ (ช้าผิดปกติ หรือเปิดหน้าต่างไม่ได้)
มัลแวร์แพร่กระจายอย่างไร
- ไฟล์หรือไฮเปอร์ลิงก์ที่แนบมาในอีเมลลวง
- ไฟล์หรือซอฟท์แวร์ที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์
- โปรแกรมที่แนบมากับข้อความที่ส่งมาจากบุคคลที่รู้จักในเครือข่ายสังคมออนไลน์
- ซอฟท์แวร์ผิดกฎหมาย
- ไฟล์ที่มีไวรัสในอุปกรณ์เก็บข้อมูล เช่น ซีดี ดีวีดี หรือ USB drive
ท่านจะปกป้องตนเองจากมัลแวร์ได้อย่างไร
- ไม่เปิดไฟล์แนบที่มากับอีเมล หรือคลิกลิงก์ใดๆ ที่ส่งมาในอีเมลจากคนที่ไม่รู้จัก
- ไม่ดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้มาตรฐาน
- ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมที่ไม่น่าไว้ใจ หรือข้อความที่ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จัก
- ใช้ซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัสที่มีลิขสิทธิ์และถูกกฎหมาย และมั่นใจว่าโปรแกรมจะมีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ
- อ่านข้อตกลงและประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัว ก่อนติดตั้งซอฟท์แวร์ใดๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
- สแกนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลเพื่อตรวจหามัลแวร์ก่อนการใช้งาน
ข้อแนะเมื่อท่านสงสัยว่ามีมัลแวร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์
- ไม่ตื่นตระหนก
- ตรวจสอบว่าท่านได้อัพเดทซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัสที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องของท่านแล้ว
- เปิดใช้เครื่องมือตรวจหาโทรจัน ไวรัสและหนอนคอมพิวเตอร์ในโปรแกรมป้องกันไวรัสของท่าน
- ส่งรายงานไปยังผู้ผลิตซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัสที่ท่านใช้ (การรายงานแบบนี้มักทำงานเองโดยอัตโนมัติ)
- ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยและระบบ ว่าเป็นไปตามการตั้งค่าของท่านหรือไม่ (แฮกเกอร์อาจแอบเข้ามาเปลี่ยนค่าดังกล่าว)
- สแกนอีกครั้งและตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับการทำความสะอาดอย่างสมบูรณ์แล้ว
- ทำการตรวจสอบทุกวัน ไปอีก 7 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ปลอดภัยแล้ว
- หากเครื่องคอมพิวเตอร์ยังคงมีปัญหาจากมัลแวร์อีก ควรนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ