สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “สำนักวิทยบริการฯ”) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ดังนั้นเพื่อให้สำนักวิทยบริการฯ สามารถ เก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สำนักวิทยบริการฯ ใคร่ขอความยินยอมจากผู้สมัครฝึกงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย โดยมีรายละเอียดดังนี้ ทั้งนี้ผู้สมัครฝึกงานงานรับทราบว่าหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครฝึกงาน
ข้อ 1. วัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักวิทยบริการฯ มีการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครฝึกงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติและทักษะของท่านว่าเหมาะสมกับตำแหน่งฝึกงานนั้นหรือไม่
- เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ สื่อสารเพื่อการนัดหมายสัมภาษณ์ การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งฝึกงาน
- เพื่อใช้ประกอบในการอ้างอิงการยืนยันตัวตนของผู้สมัครและความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้สมัครฝึกงานได้ให้ไว้แก่สำนักวิทยบริการฯ
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายแรงงาน และกฎหมายหรือกฎ ระเบียบใด ๆ ที่มีผลบังคับใช้กับสำนักวิทยบริการฯ
ทั้งนี้ หากภายหลังสำนักวิทยบริการฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สำนักวิทยบริการฯ จะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ทั้งนี้ สำนักวิทยบริการฯ ได้กำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานด้วย
ข้อ 2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งสำนักวิทยบริการฯ ได้เก็บ รวมรวม ใช้หรือเปิดเผย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ชื่อตัว ชื่อสกุล ชื่อเล่น เพศ ภาพถ่าย วัน เดือน ปี เกิด
- Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายนำ ประสบการณ์ทำงาน และข้อมูลด้านการศึกษา
- ข้อมูลในการติดต่อกับผู้สมัครฝึกงาน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail address) หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
- ข้อมูล IP Address หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านคุ๊กกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน
- ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดหรือเอกสารเกี่ยวกับคู่สมรส บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา รายชื่อเครือญาติของท่าน ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามแก่สำนักวิทยบริการฯ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้สำนักวิทยบริการฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามคำประกาศฉบับนี้ นอกจากนี้ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงคำประกาศฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น
ข้อ 3. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักวิทยบริการฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่สิ้นสุดขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายของท่าน เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
3.1 กรณีที่ผู้สมัครฝึกงานผ่านการคัดเลือกเข้าฝึกงานเป็นผู้สมัครฝึกงานของสำนักวิทยบริการฯ สำนักวิทยบริการฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปในระยะที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสำนักวิทยบริการฯ
3.2 กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล, คำสั่งจากหน่วยงานของรัฐ, คำสั่งศาล
3.3 สำนักวิทยบริการฯ จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ข้อ 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักวิทยบริการฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลใดโดยปราศจากการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยตามที่ระบุไว้ข้างต้นผู้สมัครฝึกงานรับทราบและยินยอมว่าสำนักวิทยบริการฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน และ/หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
4.2 สำนักวิทยบริการฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครฝึกงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย การบังคับคดี เป็นต้น
ทั้งนี้สำนักวิทยบริการฯ จะดำเนินการให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นมีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่บนพื้นฐานการรู้เท่าที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา
ข้อ 5. สิทธิของผู้สมัครฝึกงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้สมัครฝึกงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังนี้
- ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักวิทยบริการฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
- แจ้งให้สำนักวิทยบริการฯ ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้
- ขอให้สำนักวิทยบริการฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลจากระบบนั้น ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของสำนักวิทยบริการฯ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบภายหลังโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการกระทำใด ๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายของบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น
- ขอให้สำนักวิทยบริการฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด
- ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้
- ร้องเรียนในกรณีที่สำนักวิทยบริการฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของสำนักวิทยบริการฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตามสำนักวิทยบริการฯ มีสิทธิปฏิเสธสิทธิของผู้สมัครฝึกงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยอาศัยเหตุตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า หรือกฎหมายอื่นได้อนุญาตไว้
ข้อ 6. ผลของการถอนความยินยอม
ความยินยอมที่ผู้สมัครฝึกงานให้ไว้เพื่อเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นจะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าผู้สมัครฝึกงานจะได้บอกถอนความยินยอมเป็นหนังสือแจ้งต่อสำนักวิทยบริการฯ
เมื่อสำนักวิทยบริการฯ ได้รับแจ้งความประสงค์ของผู้สมัครฝึกงานตามที่ระบุไว้ในข้อ 5. แล้ว สำนักวิทยบริการฯ จะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการร้องขอของผู้สมัครฝึกงาน (ถ้ามี) โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามคำขอภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นหนังสือตามแบบฟอร์มที่สำนักวิทยบริการฯ กำหนดจากผู้สมัครฝึกงาน
การเพิกถอนความยินยอมของผู้สมัครฝึกงาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผู้สมัครฝึกงานได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
ข้อ 7. คุกกี้ (Cookies)
สำนักวิทยบริการฯ เก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างจากผู้สมัครฝึกงานโดยการใช้คุ๊กกี้ โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวรวมถึงพฤติกรรมการใช้งาน และเวลาที่ใช้ไปในช่องทางการสื่อสารของสำนักวิทยบริการฯ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็ปไซต์และ/หรือแอปพลิเคชั่นของสำนักวิทยบริการฯ โปรดศึกษานโยบายคุกกี้ฉบับเต็มของสำนักวิทยบริการฯ
ข้อ 8. ช่องทางติดต่อ
ผู้สมัครฝึกงานสามารถติดต่อ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
เลขที่ 2 ถนนราชดำเนินนอก ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90000
โทรศัพท์ :: 0-7431-7146
โทรศัพท์ :: 0-7431-7100 ต่อ 1160 - 1161, 3030
โทรสาร :: 0-7431-7147
www :: https://arit.rmutsv.ac.th
หรือได้ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้
e-mail :: saraban.12@rmutsv.ac.th
ข้าพเจ้าได้รับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักวิทยบริการฯ ในการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามขอบวัตถุประสงค์ ดังที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วและขอให้ความยินยอมแก่สำนักวิทยบริการฯ ดังต่อไปนี้
การให้ความยินยอม
ข้าพเจ้าให้ความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยและโอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้
ข้าพเจ้าไม่ให้ความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยและโอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในหนังสือแสดงความยินยอมฉบับนี้
(ในกรณีที่ข้าพเจ้าไม่ได้ให้ความยินยอมข้างต้น ข้าพเจ้ารับทราบว่าอาจมีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกใบสมัครของข้าพเจ้า เนื่องจากข้อมูลที่ระบุไว้ในใบสมัครดังกล่าวเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าฝึกงานในสำนักวิทยบริการฯ )